วัสดุที่เหมาะสมในการศัลยกรรมจมูก
วัสดุที่เหมาะสมในการศัลยกรรมจมูก
ยกตัวอย่างเช่น ชาวตะวันตกมีผิวของจมูกค่อนข้างบาง ในกรณีที่ใช้วัสดุเทียมในการทำศัลยกรรมมีโอกาสเกิดข้อเสีย สูง เช่น มองเห็นเงาของวัสดุ ดูออกได้ง่าย เพราะฉะนั้นควรใช้เซลล์เหมือนกระดูกอ่อนของตนเองก่อน แต่สำหรับชาวตะวันตกการศัลยกรรมตกแต่งจมูกมีไม่มากนัก และส่วนใหญ่ส่วนที่ต้องทำให้โด่งขึ้นก็มีน้อย จึงสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้กระดูกอ่อนจำนวนมาก แต่สำหรับชาวตะวันออกนั้นต้องทำให้โด่งขึ้นมากกว่าชาวตะวันตก ซึ่งการศัลยกรรมจมูกที่ใช้เซลล์ของตนเองมีจึงข้อจำกัดตามมา และต้องคำนึงถึงลักษณะพิเศษของตน เช่น สภาพผิว เป็นเรื่องยากที่จะเจาะจงใช้วัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อทำศัลยกรรมตกแต่งจมูกต้องมีความเข้าใจในข้อดีและลักษณะพิเศษของวัสดุที่หลากหลาย และสิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือควรใช้วัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ทำศัลยกรรม
เซลล์ของตนเองหมายถึงวัสดุที่ได้จากร่างกายของตนเอง เนื่องจากเป็นเซลล์ของผู้ทำศัลยกรรมเองจึงมีการประสานของเนื้อเยื่อที่เร็วกว่า และมีข้อดีคือลดการเกิดการอักเสบและมีอัตราการแพ้น้อย น้อย เซลล์ของตนเองมีทั้ง กระดูกอ่อน กระดูก ไขมันจากผิวหนัง พังผืด การปลูกเนื้อไมโครไขมัน ฯลฯ ทีโรงพยาบาลศัลยกรรมJW กรณีใช้เซลล์ของผู้ทำศัลยกรรมเองมีดังนี้
ส่วนปลายจมูกไม่ควรใช้วัสดุที่มีลักษณะแข็ง เพื่อให้ได้ปลายจมูกที่นุ่มนวล และไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ้และระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรกหรือครั้งที่สอง วัสดุที่ใช้ในการทำปลายจมูกจะใช้เซลล์ของตนเอง เช่น กระดูกอ่อนของหู กระดูกอ่อนของข้างในสันจมูก กระดูกอ่อนของหน้าอก ผิวหนัง ฯลฯ
- - ในรายที่มีผิวบางจนอาจมองเห็นวัสดุภายใน
- - ในกรณีเคยฉีดยาที่ไม่น่าเชื่อถือที่จมูก
- - ในกรณีที่เคยทำศัลยกรรมหลายครั้ง จนทำให้รอยแผลในจมูกเกาะติดกันเกินไป
- - ในกรณีที่เกิดการอักเสบและต้องการทำศัลยกรรมใหม่โดยเร็ว
- - ในกรณีที่เคยมีอาการอักเสบในจมูกบ่อยครั้ง
- - ในกรณีที่ผู้รับการศัลยกรรมไม่ต้องการใช้วัสดุเทียม
- - ในกรณีที่เคยทำศัลยกรรมหลายครั้ง จนทำให้รอยแผลในจมูกเกาะติดกันเกินไป
- 1. กระดูกอ่อนของหู
วัสดุดังกล่าวเป็นกระดูกอ่อนของตนเองที่ใช้ในการทำศัลยกรรมตกแต่งจมูกและเป็นกระดูกอ่อนที่หาได้ง่ายสุด- > ความมุ่งหมาย
- ① ส่วนใหญ่ใช้ในกรณีที่ต้องการให้ปลายจมูกโด่งขึ้น
- ② สามารถใช้ในกรณีต้องการทำให้สันจมูกโด่งขึ้นอย่างเล็กน้อย
- ③ สามารถใช้ในการปรับกระดูกอ่อนปลายจมูกที่คดงอ
- ④สามารถใช้ในการปรับเนื้อระหว่างสันจมูกและร่องเหนือริมฝีปากที่ยุบลงได้
- 2. กระดูกอ่อนของข้างในสันจมูก
กระดูกอ่อนข้างในสันจมูก คือ โครงสร้างเหมือนกำแพงที่ทำหน้าที่แบ่งช่องข้างในรูจมูก ซึ่งจะตัดกระดูกอ่อนบางส่วนจากโครงสร้างนี้ และสามารถใช้ในการทำศัลยกรรมตกแต่งจมูก กระดูกอ่อนข้างในสันจมูกเป็นเซลล์ของตนที่ได้รับนิยมสูงที่สุดเนื่องด้วยมีข้อดีดังกล่าว- > ข้อดี
- ①เนื่องจากตัดออกจากข้างในรูจมูก ซึ่งไม่จำเป็นต้องผ่าตัดส่วนอื่น เช่น กรณีตัดจากกระดูกอ่อนของหู
- ② กระดูกอ่อนข้างในสันจมูกเป็นวัสดุที่ตรงเรียบ จึงเหมาะที่จะใช้เป็นสิ่งประคองรับสันจมูกมากที่สุด ถ้าหากเสริมปลายจมูกโดยการประคองสันจมูก ทำให้รูจมูกและเนื้อรูจมูกยาวขึ้นแบบแนวตั้ง จะสามารถทำให้ปลายจมูกโด่งขึ้นได้และมีรูปทรงสวยงาม สามารถเกลา ตกแต่ง
- ③ ใช้ในการเสริมปลายจมูกได้ ซึ่งใช้กันอย่างกว้างขวาง สามารถใช้ในการต่อความยาวของจมูก
it is sculpted. - ④จึงมักใช้ในการปรับจมูกที่มีลักษณะรั้น และสามารถใช้ในการศัลยกรรม เสริมจมูกให้โด่งขึ้นได้อีก
กรณีใช้กระดูกอ่อนข้างในสันจมูกโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หากได้กระดูกในปริมาณน้อย จะไม่สามารถใช้ในการทำศัลยกรรมจมูก หรืออาจทำให้เกิดภูมิแพ้ในกรณีต่างๆ ได้ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้ทำศัลยกรรมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากพอ ซึ่งเป็นหมอที่สามารถตัดกระดูกอ่อนข้างในสันจมูกได้อย่างถูกต้อง
- 3. กระดูกอ่อนของหน้าอก
การทำศัลยกรรมโดยใช้กระดูกอ่อนของซี่โครง กระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกมีโอกาสเกิดการอักเสบน้อย และมีปริมาณที่มาก ในการทำศัลยกรรมตกแต่งจมูก ส่วนดังกล่าวเป็นวัสดุที่น่าสนใจเนื่องจากมีข้อดีดังต่อไปนี้
- > ข้อดี
- ① สามารถตัดกระดูกอ่อนจำนวนมากได้
- ② ได้ เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนอื่น กรณีหลังจากใช้กระดูกอ่อนอันดับที่หนึ่งหมด เช่น กระดูกอ่อนของหูหรือกระดูกอ่อนข้างในสันจมูก หากต้องการกระดูกอ่อน สามารถประยุกต์ใช้ส่วนนี้แทนได้
- ③สามารถใช้ในการปรับปลายจมูกและเสริมสันจมูกให้โด่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้ได้อย่างกว้างขวาง
- > ข้อเสีย
- ①แต่ต้องผ่าตัดส่วนหน้าอก (เทคโนโลยีการผ่าตัดในปัจจุบัน จะทำให้ไม่เห็นแผลชัด จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวล)
- ②หลังจากใส่กระดูกอ่อนที่จมูกเป็นเวลานาน อาจจะค่อยๆ เพี้ยนจากตำแหน่งเดิม
- ③ อาจเกิดโรคโพรงเยื่อหุ้มปอด (เป็น โรคที่มีลมแน่นรอบปอด) ได้ แต่มีโอกาสเกิดค่อนข้างน้อย
- > กรณีที่สามารถทำศัลยกรรมโดยใช้กระดูกอ่อนบริเวณหน้าอก
- - กรณีที่ไม่มีกระดูกอ่อนส่วนอื่นที่สามารถนำมาใช้
- - กรณีกระดูกจมูกหักหรือเบี้ยวอย่างมาก เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ
- - กรณีเคยเกิดการอักเสบหลายครั้ง
- - กรณีจมูกมีลักษณะรั้นขึ้นมาก
- - กรณีเคยขจัดยาที่ฉีดออก ซึ่งเป็นยาที่ไม่ได้มาตรฐาน และเซลล์ผิวเกาะติดกันจนเส้นสายแคบลงเกิน
- 4. ผิวหนัง (ผิวหนังของตน)
อาจใช้ไขมันจากผิวหนัง (ผิวหนังของตน) เป็นวิธีที่ตัดผิวหนังและเซลล์ไขมันที่อยู่ข้างล่างของผิวโดยปกติตัดจากกระดูกก้นกบระหว่างตะโพก หรือขาหนีบ และใช้กรณีมีวัตถุประสงค์จะเสริมปลายจมูกหรือดั้งจมูก- > ข้อดี
- - เป็นเซลล์ที่นุ่มนวล จึงแทบจะไม่ต้องกังวลว่าผิวจมูกจะแดงขึ้นหรือบางขึ้น
- - ตัดออกได้ง่าย
- - มีโอกาสจะเกิดการอักเสบน้อย
- - เมื่อเปรียบเทียบกับปลูกไขมัน อัตราการยุบลงต่ำกว่า
- - หลังจากทำศัลยกรรมพียงสองเดือน จับด้วยมือเหมือนจมูกธรรมดาได้
- > ข้อเสีย
- เป็นเรื่องยากที่จะคาดถึงอัตราการยุบลงให้ชัดเจน
การคาดเดาถึงการต่ำลงหลังทำศัลยกรรมเป็นไปได้ยาก
5. พังผืด
พังผืด คือ สิ่งที่เหมือนฉากบางห่อกล้ามเนื้อ พังผืดที่ใช้ในการทำศัลยกรรมจมูกส่วนใหญ่ คือ พังผืดของกล้ามเนื้อข้างศีรษะ (กล้ามเนื้อที่อยู่ในหนังศีรษะ ช่วงบนหู) ซึ่งตัดออกโดยผ่าหนังศีรษะ จึงมีข้อดีว่าผ่าได้ง่ายและไม่เห็นแผล ใช้ในกรณีที่เสริมระหว่างหัวคิ้ว หรือใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เห็นวัสดุเทียมที่ใช้ในการทำศัลยกรรมในรายที่ผู้ทำศัลยกรรมมีผิวบาง
พังผืด คือ สิ่งที่เหมือนฉากบางห่อกล้ามเนื้อ พังผืดที่ใช้ในการทำศัลยกรรมจมูกส่วนใหญ่ คือ พังผืดของกล้ามเนื้อข้างศีรษะ (กล้ามเนื้อที่อยู่ในหนังศีรษะ ช่วงบนหู) ซึ่งตัดออกโดยผ่าหนังศีรษะ จึงมีข้อดีว่าผ่าได้ง่ายและไม่เห็นแผล ใช้ในกรณีที่เสริมระหว่างหัวคิ้ว หรือใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เห็นวัสดุเทียมที่ใช้ในการทำศัลยกรรมในรายที่ผู้ทำศัลยกรรมมีผิวบาง
6. กระดูก
กระดูกโดยส่วนใหญ่จะตัดจากกระดูกศีรษะ ซี่โครง หรือกระดูกสะโพก แต่เมื่อเทียบกันแล้วถือว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ จึงไม่นิยมใช้ในการศัลยกรรมตกแต่ง โดยปกติใช้ในกรณีสร้างจมูกใหม่ เช่น จมูกเบี้ยวเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ
กระดูกโดยส่วนใหญ่จะตัดจากกระดูกศีรษะ ซี่โครง หรือกระดูกสะโพก แต่เมื่อเทียบกันแล้วถือว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ จึงไม่นิยมใช้ในการศัลยกรรมตกแต่ง โดยปกติใช้ในกรณีสร้างจมูกใหม่ เช่น จมูกเบี้ยวเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ
7. ไมโครไขมัน
ไมโครไขมันส่วนใหญ่ตัดจากหน้าท้องหรือต้นขา วิธีการทำคือ ฉีดยาพิเศษลงในส่วนที่จะตัดไขมัน แล้วตัดไขมันโดยใช้เครื่องตัดไมโครไขมัน หลังจากนั้นนำไขมันนั้น แยกออกจากกัน โดยใช้ Centrifuge และฉีดลงในส่วนที่ต้องการเสริม เป็นวิธีที่ใช้ในการปรับบางส่วน เช่น เสริมระหว่างหัวคิ้วเพียงเล็กน้อย ปรับสันจมูกที่งอ หรือส่วนปลายจมูก และอาจต้องทำเพิ่มตามกรณีที่ว่ามีความดึงดูดมากน้อยเพียงใด เป็นวิธีการที่ง่ายและไม่ต้องห่วงเรื่องภูมิแพ้ แต่สิ่งสำคัญ คือ ความดึงดูดมากน้อยเพียงใด
ไมโครไขมันส่วนใหญ่ตัดจากหน้าท้องหรือต้นขา วิธีการทำคือ ฉีดยาพิเศษลงในส่วนที่จะตัดไขมัน แล้วตัดไขมันโดยใช้เครื่องตัดไมโครไขมัน หลังจากนั้นนำไขมันนั้น แยกออกจากกัน โดยใช้ Centrifuge และฉีดลงในส่วนที่ต้องการเสริม เป็นวิธีที่ใช้ในการปรับบางส่วน เช่น เสริมระหว่างหัวคิ้วเพียงเล็กน้อย ปรับสันจมูกที่งอ หรือส่วนปลายจมูก และอาจต้องทำเพิ่มตามกรณีที่ว่ามีความดึงดูดมากน้อยเพียงใด เป็นวิธีการที่ง่ายและไม่ต้องห่วงเรื่องภูมิแพ้ แต่สิ่งสำคัญ คือ ความดึงดูดมากน้อยเพียงใด
ผิวของชาวตะวันออกนั้นเซลล์ใต้ผิวและผิวหนังมีลักษณะค่อนข้างหนา และมีเส้นประสาทแข็งกว่าชาวตะวันตก ชาวตะวันออกสามารถใช้วัสดุเทียมที่ใช้ในการทำศัลยกรรมได้ และมีผิวที่ยืดหยุ่นมากกว่า จึงนิยมใช้วัสดุเทียมใช้ในการทำศัลยกรรมมากกว่าเซลล์ของตน และในประเทศเกาหลีมีวัสดุเทียมที่ใช้ในการทำศัลยกรรมค่อนข้างหลากหลาย วัสดุเทียมที่ใช้ในการทำศัลยกรรมที่ใช้มากที่สุด คือ ซิลิโคน Gore- tex(โกเออร์เทกส์) และซิลิเทกส์ ฯลฯ
- ซิลิโคน
ซิลิโคนเป็นสิ่งที่ใช้ในการเสริมจมูกให้โด่งได้นานที่สุด แม้ว่าเวลาผ่านไปนานก็ตามรูปทรงจมูกจะไม่ผิดเพี้ยนและไม่ยุบหาย สามารถจัดรูปทรงอย่างละเอียดและสร้างรูปทรงได้ตามรูปทรงเดิมของผู้ที่ได้รับการทำศัลยกรรม แต่กรณีผู้ที่ได้รับการทำศัลยกรรมมีผิวบาง อาจมองเห็นได้ชัด จึงต้องดูความหนาของผิวและค่อยพิจารณาว่าควรใช้หรือไม่
- Gore- tex(โกเออร์เทกส์)
ส่วนโกเออร์เทกส์เป็นสิ่งที่ใช้มากที่สุดเหมือนซิลิโคน ช่วงแรกได้พัฒนาขึ้นเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้แทนเส้นเลือด ซึ่งปัจจุบันใช้ในการทำศัลยกรรมตกแต่งจมูกและใช้ในการจัดรูปทรงใบหน้าด้วย โกเออร์เทกส์ ความรู้สึกจากการสัมผัสเป็นธรรมชาติมากกว่าซิลิโคน และมีปฏิกิริยาเคมีกับเซลล์ของมนุษย์ค่อนข้างน้อย จึงมีโอกาสเกิดภูมิแพ้ต่ำ แผู้ที่มีผิวบางก็สามารถใช้ได้ และมีข้อดีอีกอย่างคือรูปทรงหลังการทำศัลยกรรมดูเป็นธรรมชาติ มากที่สุด แต่หลังจากใส่เข้าไปในร่างกายแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงต่อความสูง จึงคาดการณ์ถึงรูปทรงได้ยาก และเกิดการแทรกเข้าระหว่างช่องลมในเซลล์ของคนและเกิดการเกาะติดกับเซลล์รอบข้าง จึงทำให้เอาออกยากกว่าซิลิโคน และมีข้อเสียอีกข้อคือแทบจะไม่สร้างเนื้อเยื่อจนเกาะติดกับผิวมากกว่า ซึ่งทำให้เห็นขอบของมันและทำให้ดูออกชัดเจน
- ซิลิเทกส์
ซิลิเทกส์เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยเลือกข้อดีทั้งซิลิโคนและโกเออร์เทกส์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำขึ้นโดยนำซิลิโคนมาติดโกเออร์เทกส์อย่างบางตรงช่วงบนผิวของมัน แม้ว่าเวลาผ่านนานแค่ไหนก็ตามจะไม่เห็นเงาของวัสดุที่ใส่ จึงสามารถจัดรูปทรงสันจมูกที่เรียบเหมือนซิลิคอนได้ ความรู้สึกจากการสัมผัสก็จะดูเป็นธรรมชาติเหมือนโกเออร์เทกส์ และสามารถสลักส่วนซิลิคอนและคงรูปทรงไว้ได้อย่างมั่นคง แต่มีข้อเสียคือ เมื่อเปรียบเทียบกับซิลิคอนหรือโกเออร์เทกส์แล้ว หลังจากใส่เข้าไปในร่างกายแล้วจะเห็นขอบเขตของมัน จึงทำให้ดูออก และเอาออกยาก
วิธีสำหรับผู้มีร่างกายต่อต้านวัสดุต่างๆ ได้ง่าย หรือสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เป็นวิธีการทำที่สามารถทำได้เร็วและง่าย ซึ่งสามารถใช้ในการเสริมสันจมูกโด่งให้ขึ้น และสามารถแบ่งได้เป็น Bio-Filler ที่ทำ biosynthesis(สั่งเคราะห์ธรรมชาติ) ด้วยส่วนประกอบของผิวเดิม และ artificial synthesis (สังเคราะห์สารเทียม)
http://www.jwbeauty.com/thai/sub/sub03/nose/nose/nose.jsp
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น: