การผ่าตัดเสริมคาง (Chin Augmentation; Genioplasty)



การผ่าตัดเสริมคาง (Chin Augmentation; Genioplasty)
เหมาะสำหรับคนที่มีคางสั้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้าส่วนล่างดูสั้นกว่าปกติและยังทำให้จมูกแลดูใหญ่กว่าปกติอีกด้วย
วิธีการในการเสริมคางมีหลายวิธี ซึ่งประกอบด้วย การผ่าตัดโดยการใช้วัสดุสังเคราะห์ต่างๆ ที่นิยมกันมากก็คือ ซิลิโคน
การผ่าตัดเลื่้อนกระดูกกรามล่างส่วนล่าง (sliding genioplasty)  และการใช้สารสังเคราะห์หรือไขมันฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง
ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการเสริมคางด้วยซิลิโคนเท่านั้น
วิธีการผ่าตัด
การเสริมคางด้วยซิลิโคนทำโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่แผลผ่าตัดอาจจะอยู่ในปากบริเวณระหว่างซอกของริมฝีปากล่างด้านใน
กับเหงือกหรืออาจจะอยู่ภายนอกบริเวณใต้คางก็ได้ ซึ่งแต่ละที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน คือแผลในปากทำให้มองไม่เห็นแผล
จากภายนอก แต่ก็จะมีโอกาสติดเชื้อของแผลมากกว่า และการยึดซิลิโคนกับเนื้อเยื่อข้างๆทำได้ยากกว่า โดยอาจจะต้องใช้สกรู
มาช่วยยึดเพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ หลังจากที่เปิดแผลแล้วก็จะทำการเซาะโพรงให้มีขนาดพอดีกับขนาดของซิลิโคน
ที่จะใส่เข้าำไป จัดให้ซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำการยึดซิลิโคนกับเนื้อเยื่อข้างเคีง แล้วเย็บปิดแผล
ในกรณีที่ผ่าตัดเข้าทางแผลในปาก หลังการผ่าตัดควรกินแต่อาหารเหลวประมาณ 2 วันและทำความสะอาดโดยการบ้วนปากบ่อยๆ
หลังการผ่าตัดควรประคบด้วยความเย็นอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
หลังการผ่าตัดจะมีอาการบวมช้ำ ซึ่งจะหายไปในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนจะคล้ายๆกับการผ่าตัดเสริมจมูก
  • การติดเชื้อ ในกรณีที่ทำการผ่าตัดผ่านทางช่องปากจะมีโอกาสติดเชื้อสูงกว่าการผ่าตัดเข้าทางผิวหนังบริเวณใต้คาง
  • มีการเอียงหรือเคลื่อนที่ของซิลิโคน ทำให้คางดูเอียง สูง หรือต่ำกว่าปกติ
  • เลือดออกจากแผลผ่าตัด หรือออกภายในแผลทำให้คางบวมผิดปกติ
  • ซิลิโคนทะลุออกมาภายนอก มีโอกาสเกิดน้อยกว่าที่จมูกเนื่องจากที่คางมีเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้โดยรอบมากกว่า

0 ความคิดเห็น: